เมนู

รุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของดิฉันจึงสว่างไสวไป
ทุกทิศ.

จบอรรถกถาสุนิททวิมาน

9. สุทินนาวิมาน


ว่าด้วยสุทินนาวิมาน


[26] พระมหาโมคคัลลานเถระ เมื่อจะถามถึงบุรพกรรมของ
เทพธิดานั้น จึงกล่าวคาถานี้ว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านเป็นผู้มีวรรณะงาม มีรัศมี
ส่องสว่างไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และรัศมี
ของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพธิดานั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ จึงได้พยากรณ์ปัญหาแห่งกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ประชาชนเรียกดีฉันว่า แม่สุทินนา ดีฉันเป็น
อุบาสิกาอยู่ในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธา
และศีล . . . เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุ
สมบูรณ์ด้วยพระเกียรติยศ เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมี
วรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไป
ทุกทิศ.

จบสุทินนาวิมาน

อรรถกถาสุทินนาวิมาน


นวมวิมาน

วิมานที่ 9 ราชคหนิทาน เรื่องเกิดในกรุงราชคฤห์ ใน
อัตถุปปัตติ เหตุเกิดเรื่องที่พึงกล่าวตามลำดับว่า อุบาสิกาชื่อสุทินนา ฯ ล ฯ
ของพระโคดม ผู้มีพระเกียรติยศ. เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้
ฯ ล ฯ อุบาสิกาชื่อสุทินนา. คำที่เหลือเหมือนนัยที่กล่าวมาแล้ว แม้ใน
คาถาก็ได้กล่าวมาแล้วทั้งนั้น จริงอย่างนั้น บางคัมภีร์ท่านก็ตั้งบาลีไว้
โดยใช้เปยยาลแล. ด้วยเหตุนั้น พระสังคีติกาจารย์จึงกล่าวไว้ว่า ท่าน
พระมหาโมคคัลลานะถามว่า
ท่านผู้มีวรรณะงาน ฯ ล ฯ และรัศมีของท่านจึง
สว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพธิดานั้น ถูกพระมหาโมคคัลลานเถระถามแล้ว ดีใจ ก็พยากรณ์
ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ชนทั้งหลายในกรุงราชคฤห์ ได้รู้จักดีฉันว่า
สุทินนา ดีฉันเป็นอุบาสิกา ฯ ล ฯ เป็นอุบาสิกาของ
พระโคดมผู้มีพระจักษุ ผู้มีพระเกียรติยศ. เพราะบุญ
นั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญกรรมนั้น ฯ ล ฯ
และรัศมีของดิฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบอรรถกถาสุทินนาวิมาน